ตำนานจิ้งจอก ในสมัยจักพรรดิโจ้วหวาง แห่งราชวงศ์ชาวจีน

สำมหรับเรื่อง อูราชิมะ ทาโร ที่เป็นเด็กขี่หลังเต่าลงไปเจอแบบวังใต้ทะเลแล้วกลับขึ้นมาเวลาข้างบนผ่านไปนานแสนนานแล้วก็อยู่ในนี้เหมือนกันและเรื่องตำนานปีศาจจิ้งจอก โทมาโมะ โนะ มาเอะ ก็เป็นหนึ่งในวรรณกรรมกลุ่มนี้เช่นกัน ซึ่งในตำนานนี้มันก็จะเล่าว่าปีศาจจิ้งจอก ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในสมัยจักพรรดิโจ้วหวางแห่งราชวงศ์ชาวจีน

ตำนานจิ้งจอก ในสมัยจักพรรดิ หลายคนอ่านตำนานนี้ไปอาจจะคุ้นๆเพเราะว่าญี่ปุ่นเขาได้รับแรงบันดันใจเรื่องนี้มาจากพงศาวดารจีนห้องศิลป์เรื่องของเรื่องก็คือตามตำนานจีนมันก็จะมีเทพเทพีอะไรต่างๆมากมายใช่ไหมและเทพีองค์สำคัญมากๆของจีนองค์นึงก็คือ พระแม่หนี่ว่าเหมือนเทพอันดับต้นๆของจีน

นอกจากนี้วันนึงจักรพรรดิโจ้วหวางก็ไปแบบบูชาพระแม่ตามปกติแต่ปรากฎว่าระหว่างที่จักรพรรดิโจ้วหวางเนี่ยกำลังบูชาพระแม่อยู่เกิดลมพัดกระโปรงพระแม่ขึ้นมาเราก็ไม่รู้ว่าลมพัดทำให้กระโปรงพระแม่แนบเนื้อหรือกระโปรงเปิดแต่สิ่งที่โจ้วหวางคิดในใจบอกเลยว่าอกุศลมากๆ เพราะว่าดันไปคิดว่าพระแม่แซ่บมากๆถ้าได้พระแม่เป็นเมียจะเลิศมากเลยหลังจากนั้นโจ้วหวางก็เก็บไปฝันประมาณว่าฉันจะต้องหาสนมที่หน้าตาเหมือนพระแม่ที่สุดเพราะว่าพระแม่สวยมากดังนั้นพระแม่ก็เลยโกรธก็เลยมีการส่งปีศาจลงมาหลายตนเลย

เพื่อมาทำลายโจ้วหวางและหนึ่งในนั้นก็คือนางปีศาจจิ้งจอกเก้าหางที่พอลงมาแล้วก็ไปเจอนางสนมพอเจอกับนางปีศาจจิ้งจอกตนนี้  ufabet ฝาก-ถอน เอง    ก็ฆ่านางทิ้งแล้วก็สมรอยเป็นนางหลังจากนั้นนางก็ใช้ความสวยของนางเข้าไปเป็นสนมของโจ้วหวางและแน่นอนก็ตามสเต็ปตำนานจีนปกติทั่วไปมีหญิงงามเข้าไปเป็นสนมของจักรพรรดิ

จักรพรรดิก็จะต้องลุ่มหลงแบบไม่ทำงานทำการมีอะไรก็ทุ่มให้สนมจนหมดสุดท้ายนางก็ปั่นป่วนวังสำเร็จถึงขนาดที่ราชวงศ์ซางล่มไปเลยอย่างไรก็ตามหลังจากที่ราชวงศ์ล่มไปนางก็หนีไปบางคนก็บอกว่าพระแม่หนี่วาลงมาลงโทษเพราะบอกว่าให้ไปทำร้ายแค่จักรพรรดิไม่ได้ให้ทำร้ายทั้งเมืองทั้งประเทศเราไม่ต้องไปสนใจตรงนั้น

สนใจที่นางปีศาจจิ้งจอกของเราต่อหลังจากที่นางหนีหายจากราชวงศ์ซางของจีนไปนางก็ไปปรากฎตัวอยู่ที่อินเดียแล้วก็ไปโผล่อยู่ที่แคว้นมคธพอไปถึงนางก็สเต็ปเดิมก็เข้าไปเป็นสนมของเจ้าชายรัชทายาทเจ้าแคว้นแล้วก็มีความแบบปั่นป่วนแคว้นเหือนเดิมเจ้าชายก็หลงหัวปักหัวปำ

การใช้เวลาอยู่กับตัวเองจะยิ่งสร้างตัวตน

ที่เด่นชัดชัดเจนโดยพื้นฐานแล้ว การใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ความสามารถคิดค้นหรือจินตนาการนั้นเกิดจากความเป็นตัวของตัวเองตัวอย่างเช่นคนที่ทำงานเชิงสร้างสรรค์ อย่างนักวาดการ์ตูน นักแต่งเพลง จิตรกร ศิลปินพู่กัน หรือช่างปั้นดินเผา ล้วนมีความเป็นตัวของตัวเองคนเหล่านี้มักใช้เวลาทำงานเงียบๆ

คนเดียวในบ้านหรือออฟฟิศ หรือคิดขณะเดินเล่นคนเดียว เพราะมีเวลาอยู่กับตัวเอง ทำให้สร้างสรรค์ผลงานที่ผู้คนประทับใจได้ผมเองก็เขียนต้นฉบับเวลาอยู่คนเดียว ทั้งยังค้นคว้าข้อมูลการลงทุนหรือธุรกิจ สร้างแผนโมเดลธุรกิจ หรือเขียนแบบเสนองานอยู่คนเดียวทั้งสิ้น

ส่วนเวลาที่อยู่กับคนอื่น ผมจะให้ความสำคัญแก่การลงมือทำงานมากกว่าการคิด เช่น ตรวจสอบสมมติฐานของตัวเอง หรือดำเนินงานโปรเจ็กต์ (แน่นอนว่าต้องลงมือทำและคิดไปด้วย)ไม่ใช่แค่การทำงานเราจะสร้างตัวตนให้ชัดเจนได้ในเวลาที่อยู่กับตัวเองเช่นกันเวลาอยู่คนเดียว เราจะได้ใคร่ครวญถึงรูปแบบการใช้ชีวิตหรือเส้นทางอนาคตอย่างจริงจัง

และเรียบเรียงความคิดของตัวเอง เช่น คิด ค้นคว้าและลำดับความสำคัญว่าเราอยากเป็นคนแบบนี้ หรืออยากใช้ชีวิตแบบนี้เพราะฉะนั้นเราต้องทำแบบนี้เวลามีสมาธิอยู่กับการทำงานหรืองานอดิเรก เราจะจดจ่ออยู่กับตัวเองและไม่วอกแวกไปกับเรื่องอื่น “การอยู่คนเดียว” จึงเท่ากับการ “คิดใคร่ครวญ” ได้ด้วย

นอกจากนี้เรายังคิดย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เช่น “อาฉันรู้สึกแบบนี้ละ” “แต่ควรจะทำแบบนี้นะ” หรือ “เพราะฉะนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปฉันจะทำแบบนี้”

ซึ่งเป็นการจัดการความรู้สึก หรือสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง การมีความรู้สึกอย่างแรงกล้าที่จะทำบางสิ่งทำให้เรายอมรับตัวเอง และช่วยสร้างแรงผลักดันได้ดียิ่งกว่าแรงกระตุ้นจากคนอื่นเสียอีกความกังวลยังเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้เติบโต เราคงไม่กังวลเรื่องความรักหากไม่ได้ชอบอีกฝ่ายจริงๆ

ถ้าไม่สนใจการเรียนก็คงไม่กังวลแม้ผลการเรียนจะไม่กระเตื้อง ทว่าเราต้องรับรู้ถึงความกังวลที่เกิดขึ้น ต่อสู้กับมัน และก้าวผ่านไปด้วยตัวเองเมื่อคิดได้เช่นนี้ ผมจึงเชื่อว่าการ หาเวลาอยู่กับตัวเองถือเป็นลงทุนที่จำเป็นมากในทางตรงกันข้าม เวลาอยู่กับคนอื่นเราจะค้นหาสิ่งที่อยู่ลึกลงไปในตัวตนของเราได้ยากเวลาสนทนาหรือส่งข้อความหาใคร เราจะได้รับอิทธิพลจากคนอื่นซึ่งส่งผลให้เราทำสิ่งต่าง ๆ

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝาก-ถอน เอง